---

สารบัญ
• • โหราศาสตร์และดาราศาสตร์
• • ลัคนาและความสำคัญในโหราศาสตร์ไทย
• • 12 ราศีและอิทธิพลของดวงดาว และกลุ่มดาวที่เกี่ยวข้อง
• • บทสรุป

12 ราศีในโหราศาสตร์ไทย

โหราศาสตร์ไทยเป็นศาสตร์ที่ใช้ศึกษาอิทธิพลของดวงดาวที่มีผลต่อชีวิตมนุษย์ โดยมีการแบ่งราศีตามจักรราศี 12 ราศี ซึ่งเชื่อมโยงกับดาราศาสตร์และใช้ลัคนาเป็นหลักในการพิจารณาแต่ละราศี แทนที่จะใช้เดือนเกิดแบบทั่วไป

โหราศาสตร์และดาราศาสตร์

โหราศาสตร์และดาราศาสตร์มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด โดยดาราศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับตำแหน่งและการเคลื่อนที่ของดวงดาวในเอกภพอย่างเป็นระบบตามหลักวิทยาศาสตร์ ในขณะที่โหราศาสตร์ใช้การบันทึกข้อมูลเทียบกับตำแหน่งดวงดาวเพื่อทำนายและวิเคราะห์อิทธิพลของดวงดาวที่มีต่อชีวิตมนุษย์

ในอดีต โหราศาสตร์และดาราศาสตร์เคยเป็นศาสตร์เดียวกัน นักดาราศาสตร์ยุคโบราณ เช่น บาบิโลน อียิปต์ กรีก และอินเดีย ต่างใช้ความรู้ทางดาราศาสตร์ในการคำนวณตำแหน่งดวงดาวเพื่อใช้ทำนายโชคชะตาของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม เมื่อวิทยาศาสตร์ก้าวหน้า โหราศาสตร์และดาราศาสตร์ได้แยกออกจากกัน โดยดาราศาสตร์กลายเป็นศาสตร์ที่ใช้กฎฟิสิกส์และคณิตศาสตร์เพื่อศึกษาจักรวาล ส่วนโหราศาสตร์ยังคงมุ่งเน้นไปที่การตีความอิทธิพลของดวงดาวต่อชีวิตมนุษย์

ลัคนาและความสำคัญในโหราศาสตร์ไทย

ลัคนาหรือ Ascendant คือจุดที่เส้นขอบฟ้าตัดกับจักรราศีในขณะเกิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาชะตาชีวิตของแต่ละบุคคลมากกว่าดวงอาทิตย์ตามเดือนเกิด การคำนวณลัคนาจำเป็นต้องใช้เวลาและสถานที่เกิดที่แน่นอนเพื่อกำหนดตำแหน่งของราศีที่ลัคนาสถิต

ความเชื่อมโยงของโหราศาสตร์ไทยกับโหราศาสตร์อินเดียและโหราศาสตร์ตะวันตก

โหราศาสตร์ไทยได้รับอิทธิพลจากโหราศาสตร์อินเดีย (Vedic Astrology) และมีความใกล้เคียงกับระบบโหราศาสตร์ภารตะ โดยใช้ลัคนาเป็นหลักสำคัญในการทำนายดวงชะตา รวมถึงการพิจารณาอิทธิพลของดาวเคราะห์อย่างลึกซึ้ง โหราศาสตร์ไทยยังคำนึงถึงจักรราศีแบบนิรายนะ (Sidereal Zodiac) เช่นเดียวกับโหราศาสตร์อินเดีย

ในขณะเดียวกัน โหราศาสตร์ตะวันตก (Western Astrology) ซึ่งเป็นที่นิยมในยุโรปและอเมริกานั้น ใช้จักรราศีแบบสายนะ (Tropical Zodiac) และให้ความสำคัญกับตำแหน่งของดวงอาทิตย์มากกว่าลัคนา ระบบตะวันตกยังมีการใช้ศาสตร์จิตวิทยาเข้ามาร่วมพิจารณาในดวงชะตาเพื่อวิเคราะห์บุคลิกภาพของแต่ละบุคคล

12 ราศีและอิทธิพลของดวงดาว และกลุ่มดาวที่เกี่ยวข้อง

ราศีเมษ : มีดาวอังคารเป็นดาวเจ้าเรือน สื่อถึงพลังงาน ความกล้าหาญ และความเป็นผู้นำ
• กลุ่มดาวแกะ (Aries) อยู่ในซีกฟ้าเหนือ แสดงถึงพลังงานและความมุ่งมั่น
• ลักษณะของคนราศีนี้คือความเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น กล้าเสี่ยง ตัดสินใจรวดเร็ว มีความทะเยอทะยานสูง แต่บางครั้งอาจใจร้อนและหุนหันพลันแล่น

ราศีพฤษภ : มีดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าเรือน แสดงถึงความมั่นคง ความงาม และความรักศิลปะ
• กลุ่มดาววัว (Taurus) เป็นกลุ่มดาวที่มีดาวฤกษ์อัลเดบารันโดดเด่น
• คนราศีนี้มักเป็นผู้ที่อดทน รักความมั่นคง ชอบความสะดวกสบาย มีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แต่บางครั้งอาจดื้อรั้นและยึดติดกับสิ่งที่คุ้นเคย

ราศีเมถุน : มีดาวพุธเป็นดาวเจ้าเรือน สื่อถึงปัญญา การสื่อสาร และความหลากหลาย
• กลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) สื่อถึงการเป็นคู่ตรงข้ามและความสมดุล
• คนราศีนี้มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบการเรียนรู้ และเป็นนักสื่อสารที่ดี มีความสามารถในการปรับตัว แต่บางครั้งอาจไม่ค่อยแน่วแน่ และขาดความอดทน

ราศีกรกฎ : มีดวงจันทร์เป็นดาวเจ้าเรือน เป็นสัญลักษณ์ของอารมณ์ ความรู้สึก และครอบครัว
• กลุ่มดาวปู (Cancer) มักเกี่ยวข้องกับอารมณ์ที่อ่อนไหวและความอบอุ่น
• คนราศีนี้มักใส่ใจครอบครัว มีอารมณ์ลึกซึ้ง รักความมั่นคงทางจิตใจ แต่บางครั้งอาจอ่อนไหวง่ายและจมอยู่กับอดีต

ราศีสิงห์ : มีดวงอาทิตย์เป็นดาวเจ้าเรือน แสดงถึงความเป็นผู้นำ ความโดดเด่น และพลังงาน
• กลุ่มดาวสิงโต (Leo) มีดาวฤกษ์หลักอย่าง Regulus ที่สื่อถึงอำนาจและเกียรติยศ
• คนราศีนี้มักเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ มีความมั่นใจและชอบแสดงออก แต่บางครั้งอาจดูหยิ่งหรือชอบเป็นจุดสนใจ

ราศีกันย์ : มีดาวพุธเป็นดาวเจ้าเรือน สะท้อนถึงความละเอียดรอบคอบ วางแผน และการวิเคราะห์
• กลุ่มดาวหญิงสาว (Virgo) สื่อถึงความเป็นระเบียบและสติปัญญา
• คนราศีนี้มักรอบคอบ เจ้าระเบียบ ใส่ใจรายละเอียด และมีความสามารถในการแก้ปัญหา แต่บางครั้งอาจกังวลมากเกินไปและจู้จี้จุกจิก

ราศีตุลย์ : มีดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าเรือน แสดงถึงความสมดุล ความยุติธรรม และเสน่ห์
• กลุ่มดาวตาชั่ง (Libra) สื่อถึงความยุติธรรมและความสมดุล
• คนราศีนี้มักรักสันติ มีเสน่ห์ และให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ แต่บางครั้งอาจลังเลและตัดสินใจช้า

ราศีพิจิก : มีดาวอังคารและดาวพลูโตเป็นดาวเจ้าเรือน สื่อถึงความเข้มแข็ง ความลึกลับ และการเปลี่ยนแปลง
• กลุ่มดาวแมงป่อง (Scorpius) มีดาว Antares ที่เด่นชัด สื่อถึงความลึกซึ้ง
• คนราศีนี้มักมีพลังจิตแข็งแกร่ง ลึกลับ และมีเสน่ห์น่าค้นหา แต่บางครั้งอาจเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น

ราศีธนู : มีดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเจ้าเรือน แสดงถึงการขยายตัว ความเชื่อ และการแสวงหาความรู้
• กลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) สื่อถึงการเดินทางและการแสวงหาความจริง
• คนราศีนี้มักรักอิสระ ชอบผจญภัย และแสวงหาความรู้ใหม่ๆ แต่บางครั้งอาจไม่ค่อยมีความอดทนและเบื่อง่าย

ราศีมังกร : มีดาวเสาร์เป็นดาวเจ้าเรือน เป็นสัญลักษณ์ของวินัย ความรับผิดชอบ และความอดทน
• กลุ่มดาวแพะทะเล (Capricornus) เป็นสัญลักษณ์ของความอดทนและการปีนสู่จุดสูงสุด
• คนราศีนี้มีวินัยสูง มีเป้าหมายชัดเจน และมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ แต่บางครั้งอาจจริงจังเกินไปและเข้มงวดกับตนเอง

ราศีกุมภ์ : มีดาวมฤตยูและดาวเสาร์เป็นดาวเจ้าเรือน แสดงถึงความคิดก้าวหน้า เทคโนโลยี และการปฏิรูป
• กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ (Aquarius) เป็นสัญลักษณ์ของการหลั่งไหลของความรู้
• คนราศีนี้มักมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นอิสระ และมุ่งสู่อนาคต แต่บางครั้งอาจแปลกแยกและดื้อรั้น

ราศีมีน : มีดาวพฤหัสบดีและดาวเนปจูนเป็นดาวเจ้าเรือน สื่อถึงจิตวิญญาณ ความฝัน และความเมตตา
• กลุ่มดาวปลา (Pisces) สื่อถึงความลึกลับและความเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณ
• คนราศีนี้มักมีอารมณ์อ่อนไหว มีจินตนาการสูง และมีเมตตา แต่บางครั้งอาจหลีกหนีความจริงและไม่เด็ดขาด

บทสรุป

โหราศาสตร์ไทยเน้นการใช้ลัคนาเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาชะตาชีวิต ซึ่งต่างจากระบบที่พิจารณาตามเดือนเกิดทั่วไป ราศีแต่ละราศีมีลักษณะเฉพาะตัวที่เกี่ยวข้องกับดาราศาสตร์ และมีอิทธิพลของดวงดาวที่แตกต่างกัน โหราศาสตร์ไทยยังมีรากฐานเชื่อมโยงกับโหราศาสตร์อินเดีย และมีความแตกต่างจากโหราศาสตร์ตะวันตกที่เน้นดวงอาทิตย์มากกว่า การเข้าใจระบบทั้งสามนี้ช่วยให้สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างหลากหลาย

---

---

บทความที่เกี่ยวข้อง

---